เหยื่อ
แทคยอนตกลงคบกับเด็กหนุ่มข้างบ้านง่ายๆ เค้าไม่มีเหตุผลอะไรให้ต้องปฎิเสธ เค้าออกไปพบปะผู้คนไม่ได้ ออกไปเที่ยวไกลบ้านไม่ได้ เค้าต้องติดแหงกอยู่ในบ้านหลังนี้ไปจนวันที่พระเจ้าจะมารับชีวิตเค้าคืนกลับไป
“ผมแปลกใจที่พี่ยอมคบกับผมง่ายๆ” นิชคุณถามขึ้นขณะจูงมือคนตัวใหญ่ออกไปที่ห้องอาหาร
“ถ้างั้นเธอก็ไม่ได้ตั้งใจจะคบกับพี่จริงๆสินะ” คนตัวโตพูดพลางหยุดยืนนิ่ง เค้าฝืนตัวไม่เดินตามเมื่อถูกลาก
“ผมตั้งใจขอคบพี่...แต่ผมแปลกใจที่พี่ยอมตกลงคบกับผู้ชายมากกว่า” เด็กผิวขาวตอบกลับ เค้ากระชับมือสีเข้มแน่นขึ้น
“แล้วมันต่างกันยังไงล่ะ..” แทคยอนตอบพลางมองมือเด็กน้อยที่จับมือเค้าไว้
“พี่ไม่รู้ความต่างจริงๆเหรอ..ผู้ชายกับผู้ชายน่ะ” นิชคุณถามกลับพลางมองหน้าแทคยอนอย่างถงลใจมากๆ
“ผู้ชายกับผู้ชายเหรอ” แทคยอนเอียงคอสงสัย
“ครับ...ผู้ชายกับผู้ชาย...มันต่างจากหญิงชายเวลารักกันนะครับ” นิชคุณกล่าว
“ทำไมล่ะ...ถ้าแค่ว่าพี่หรือเธอมีลูกไม่ได้อันนั้นพี่รู้” แทคยอนกล่าวต่อ
“เธอตะหากล่ะ...พ่อแม่เธอจะไม่โกรธเหรอ” แทคยอนถามกลับ
“ผมมีน้องสาวคนนึง แล้วพ่อแม่พี่ล่ะครับ” นิชคุณตอบและถามกลับ เค้าออกแรงกระตุกมือแทคยอนให้เดินตาม
“ไม่มีหรอก...พี่น่ะตัวคนเดียว..ครอบครัวไปอยู่ไหนก็ไม่รู้..พ่อแม่เป็นใครยังไม่รู้เลย” คนตัวโตกล่าวเศร้าๆ
“.....แล้วเด็กคนนั้นล่ะครับ” นิชคุณกลืนน้ำลายเฮือก เค้าแอบคิดถึงคำพูดของจุนโฮเรื่องการถูกลบตัวตน
“พี่เป็นแค่คนโชคร้ายคนนึงที่โชคดีได้คนดีรับมาดูแลน่ะ...” แทคยอนตอบคำถามแบบคลุมเคลือ เพราะตัวเค้าเองก็ไม่ได้รู้อะไรเยอะนักหรอก แค่ปัญหาของเค้าก็เยอะพออยู่แล้ว
“เราคุยเรื่องอื่นกันเถอะ...เธอรู้ไหมว่าชางทำกับข้าวแย่มากเลยนะ...ฉันหวังว่าเธอจะกินมันได้” แทคยอนชวนคุย
“ครับ..ขอบคุณที่เตือนผมก่อน” เด็กน้อยยิ้มเศร้าๆ แทคยอนสร้างปราการบางอย่างไว้ เค้าไม่บอกข้อมูลที่นิชคุณอยากรู้
ชางมินแปลกใจที่แทคยอนออกมากินข้าวเอง เค้ากินเองได้เยอะและไม่ต้องป้อน แถมยังอารมณ์ดีและพูดมากผิดวิสัย เจ้าเด็กหนุ่มข้างบ้านก็แปลกไปบรรยากาศรอบตัวคนตรงหน้าเค้ากลายเป็นสีชมพู
‘พวกนายต้องล้อฉันเล่นแน่ๆ เอาจริงน่ะ..’ ชางมินปรายตามองเพื่อนสนิทกับเด็กข้างบ้านงุ่งงิ้งกันหลังกินข้าวเสร็จ เค้าเปลี่ยนใจเรื่องจะให้ยาระงับประสาทกับแทคยอน แต่เค้าคิดว่าเค้าอยากจะคุยกับแทคยอนเรื่องนิชคุณหลังจากที่เด็กนี่กลับบ้านไปมากกว่า
“นั่นมันอะไรกันอ่ะ..” กุ๋ยๆกลับมาถึงบ้าน เธอชี้นิ้วไปที่แทคยอนกับหนุ่มน้อยหน้าสวยคนเดิม
“อย่ามาถามฉันเลย...เธอซื้อยาเพิ่มได้ไหม” ชางมินลากแฟนสาวเข้าไปในห้องนอนทันที
“ยาอะไร” กุ๋ยถามพลางมองหน้าชางมิน
“ยาในห้อง1ทุกอย่างเลยที่อยู่ในตู้เย็น” ชามินตอบเสียงเศร้า
“ทำไมล่ะ..” กุ๋ยตาโตถามซ้ำ
“วันนี้แทคมันอาละวาท...กวาดของในตู้ออกมาหมดเลย” ชางมินหลับตาลง เค้าคิดว่าบางทีเค้าควรจะอุดหูด้วย
“ทำไม...เกิดอะไรขึ้น...ปกติแทคไม่เคยทำอะไรแบบนี้นี่” ดวงตากลมโตของกุ๋ยหรี่ลง เธอต้องการคำตอบจากปากแฟนของเธอ
“ชางแค่แซวมันเล่น..แล้วแทคมันก็คิดมากไปเอง...แต่ไม่มีอะไรหรอกนะ...หมอนั่นอารมณ์ดีขึ้นแล้ว” ชางมินตัดเฉพาะส่วนที่ปลอดภัยพูดออกไปก่อน
“อารมณ์ดีหลังจากทำลายข้าวของเนี่ยนะ...” หญิงสาวคนเดียวในบ้านกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงขึ้นจมูก อารมณ์ของเธอสูงขึ้นจนชางมินเริ่มกลัว
“กุ๋ย...ความผิดชางเอง..โอเคนะ..เราจะไม่พูดเรื่องนี้กันอีก” ชางมินจับมือแฟนสาวของเค้าไว้
“แค่ยารึเปล่าที่เสียหาย...มีอย่างอื่นอีกไหมที่ชางไม่ได้บอกกุ๋ย” หญิงสาวตาขวางใส่แฟนตัวเองทันที เธอมีสัญชาติญาณของผู้หญิง
“หมอนั่น...พยายามฆ่าตัวตาย..ชางไม่รู้ว่าแทคผสมยาอะไรไว้ในหลอดบ้าง เค้าตั้งใจจะฉีดมันเข้าเส้นเลือด หลอดนั่นอยู่ในตู้เย็น พรุ่งนี้เธอเอามันไปทดสอบได้ไหม” ชางมินไม่อาจปิดบังความจริงอะไรได้หรอก เค้ารู้เพียงแต่คิดว่าค่อยๆพูดจะดีกว่า
“ฆ่าตัวตายเนี่ยนะ...นี่เรื่องใหญ่นะ..ชางตัดส่วนสำคัญแบบนี้ไว้พูดตอนท้ายเหรอ” กุ๋ยๆตาโตเท่าไข่ห่าน
“แต่สุดท้ายก็พูดใช่ไหมล่ะ” ชางหนุ่มตรงหน้าหญิงสาวถอนหายใจยาว
“ชางพูดอะไรเหรอ” กุ๋ยๆพยายามที่จะไม่โกรธ สถานการณ์ด้านนอกดูไม่เลวร้ายเท่าที่ควร
“ชางแค่แซวว่าทำยังกับคนไม่เคยมีความรัก..หมอนั่นก็เลยงอน..” ชางมินตอบพร้อมก้มหน้ามองมือตัวเอง
“ก็ควรโกรธนี่ ตื่นขึ้นมาก็จำอะไรไม่ได้ แล้วยังต้องนอนแหงกอยู่ในโรงบาลตั้ง2ปี ได้เห็นคู่รักมาเป็น100เป็น1000คู่ พอหนีออกมาจากโรงบาลก็มาเจอนรกที่ตามหลอกหลอนไม่เลิก มันก็ต้องมีน้อยเนื้อต่ำใจบางแหละ..รักใครก็ไม่ได้ ตอบรับรักใครก็ไม่ได้....เพราะมัวแต่กังวลว่าพรุ่งนี้จะตายรึเปล่า” หญิงสาวกล่าวเศร้าๆ
“ยานั่นหาได้...แต่ต้องหาที่เก็บยาใหม่....แทคเก่งเรื่องยากว่ากุ๋ยอีกนะ...ผสมโดสเท่าไหร่ให้ตายได้นี่มันโคตรหมูเลย....ชางก็รู้ใช่ไหม” กุ๋ยๆจ้องตาชางมินเป็นมัน
“อย่าให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกนะ” หญิงสาวกล่าวอย่างกระฟัดกระเฟียด
กุ๋ยๆจัดการเทอาหารใส่จาน เธอรู้ว่าชางมินทำกับข้าวห่วยบรม เธอจึงจัดการข้าวมื้อเย็นด้วยการแวะซื้อมาจากร้านข้างทาง มื้อดึกวันนี้นิชคุณอยู่ทานด้วย
“นอนนี่ไหม” เจ้าของบ้านกล่าวขึ้นท่ามกลางวงอาหาร
ค่อก!! ชางมินสำลักเส้นก๋วยเต๋ยวจาจังมยอนจนแทบจะออกจมูก
“ยี๋...น่าเกลียดจริงเลย” กุ๋ยๆแฮวพร้อมหยิบกระดาษทิชชู่ให้อย่างรวดเร็ว
“เอ่อ..” นิชคุณตาโต หน้าตาตื่น
“นอนนี่ก็ได้นี่...เตียงนายก็ออกจะกว้าง” กุ๋ยๆจับความรู้สึกได้ เธอคิดว่าแทคกับนิชคุณสนิทสนมกันจนผิดสังเกตุ
“เธอจะบ้าเหรอ..” ชางมินรีบขัดขึ้นมาทันที
“ถ้าลำบากใจก็ไม่เป็นไร” แทคยอนลดเสียงลงจนแทบไม่ได้ยิน
“ผมนอนดิ้นนะ” นิชคุณกล่าวเสียงเบาเช่นกัน
“เอาเป็นว่านอนนะ..เดี๋ยวพี่ไปจัดการเรื่องเสื้อผ้าให้” กุ๋ยๆรีบออกตัวหน้าชื่นตาบาน ดูเหมือนเพื่อนชายของเธอจะยอมลงจากคานแล้ว ผู้ชายที่ตัวติดแหงกอยู่ในโรงพยาบาลจะมีผู้หญิงที่ไหนมาสนใจ และถึงจะยืนอยู่ในฐานะผู้บริหารมา1ปี ก็ไม่มีผู้หญิงคนไหนละลายหัวใจแทคยอนได้ เธอแปลกใจตั้งแต่เห็นว่าแทคยอนยอมเปิดใจให้นิชคุณแล้ว
“ไม่ต้องหรอกครับ..เดี๋ยวผมกลับไปเอาที่บ้านก็ได้” เด็กหนุ่มรีบขัดด้วยท่าทีเขินอายพอตัว
“นายจะกลับทางไหนล่ะ..ประตูบ้าน..หรือประตูระเบียง” ชางมินกล่าวอย่างปลงตก สายตาของกุ๋ยทำเอาชางมินกลืนน้ำลาย เค้าไม่อยากหูชาคืนนี้ และไม่อยากนอนนอกห้อง1คืน
“อ่ะ...เอ่ออ...จะเป็นอะไรไหม..ถ้าผมจะกลับไปและกลับมาทางระเบียง” นิชคุณเอ่ยเสียงเบา เค้าเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าอาจินยองไม่อนุญาติให้เค้าคบเพื่อนข้างบ้านแบบเพื่อน แต่นี่เค้าก็ไม่ได้คบแบบเพื่อนนะ เค้าคบพี่ชายข้างบ้านแบบแฟน ว่าแต่ถ้าอาเค้ารู้ เรื่องไหนจะน่ากลัวกว่ากันนะ
“ทำไมต้องเข้าออกทางระเบียงล่ะ” แทคยอนถามอย่างสงสัย กุ๋ยและชางมินต่างก็สงสัยไม่แพ้กัน
“ผมโดนกักบริเวณน่ะ..” นิชคุณโกหกออกไปอย่างรู้สึกผิด
“ทำไมล่ะ” แทคยอนรีบถาม
“ผมต้องอยู่บ้าน3เดือน...ห้ามไปไหน” นิชคุณโกหกเพิ่มขึ้นอีก
“ไม่ตลกเลยนะ..บ้ารึเปล่า...นี่มันยุคไหนกันแล้ว..ทำอย่างกับระบบทาส” กุ๋ยแฮว
“แต่ว่ามันก็ทำให้ผมเจอพวกพี่นะ...ถ้าผมไม่โดนกักบริเวณ..ตอนนี้ผมคงไม่ได้อยู่ในเกาหลีหรอก..ผมคงนั่งเล่นนอนเล่นอยู่ที่บ้านตัวเอง” นิชคุณตอบ
“ที่นี่ไม่ใช่บ้านเธอเหรอ..”กุ๋ยๆถามต่อ
“ผมอยู่ไทยครับ..อยู่กับพ่อแม่...ทุกฤดูใบไม้ผลิ..ผมจะต้องมาที่นี่และอยู่ที่นี่ไปอีก3เดือน..จากนั้น..เค้าก็จะปล่อยผมเป็นอิสระ..ถึงตอนนั้น..ผมจะเลือกไปอยู่ที่ไหนก็ได้” นิชคุณกล่าว
“เค้านี่ใครเหรอ..คนที่สั่งให้เธอมาอยู่ที่นี่” ชางมินถาม เค้าเองก็อยากรู้เรื่องของนิชคุณเช่นกัน เพราะทั้งโฮเเละเค้าต่างโฟกัสไปที่ตัวสาเหตุมากกว่าตัวเด็กในครอบครัวจินยอง พวกเค้ารู้แค่ว่าเด็กไม่ตายและถูกส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลที่ดีที่สุดในเกาหลี
“คุณอาผมน่ะ...คนที่คุณเจอวันนั้น..เค้าแค่ห่วงผมเท่านั้นเอง..ไม่มีอะไรหรอกครับ” นิชคุณรีบตอบ
“ทำไมต้องห่วงเหรอ” แทคยอนถามขึ้นบ้าง
“มันเป็นเรื่องเก่าๆน่ะครับ..แค่ว่าผมเคยประสบอุบัติเหตุ..เรื่องนั้นทำให้อาผมฝังใจ..เค้าก็เลยห่วงเท่านั้นเอง” นิชคุณเล่าต่อ
“อุบัติเหตุอะไรเหรอ” กุ๋ยๆหูพึ่ง เธอเป็นหมอ และเธอมักจะห่วงเมื่อมีคนพูดถึงเรื่องสุขภาพ
“ผมเคยอยู่ในเหตุการณ์คนร้ายปล้นธนาคารในนิวยอร์ดน่ะครับ..ช่วงนั้นมันตรงกับช่วงฤดูใบไม้ผลิในเกาหลีพอดี...ตอนนั้นอาผมพาผมกลับมาที่นี่...ผมนอนในโรงบาล3เดือน..เอาจริงๆเลยนะครับ..ผมไม่ได้เป็นอะไรมากเลย..แค่ปวดหัว..แล้วก็มึนๆ เอ๋อๆ แต่พวกคุณอาคิดมากไปเอง..แล้วนี่มันก็ผ่านมาตั้ง3ปีแล้ว พวกเค้ายังไม่ยอมลืมเรื่องนั้นไปอีก...ทั้งที่ผมไม่อยากจะคิดถึงมันด้วยซ้ำ” เด็กน้อยพร่ำพรูคำพูดออกมาจากใจ เค้าแทบอยากจะร้องไห้เมื่อต้องคิดถึงเรื่องเก่าๆๆซ้ำไปซ้ำมา
“3ปีก่อนในนิวยอร์ด..เธออยู่ในเหนุการณ์โจรปล้นธนาคารด้วยเหรอ” กุ๋ยๆพูดช้าๆ
“หมอรู้เรื่องนี้ด้วยเหรอครับ” นิชคุณเอ่ะใจขึ้นมา
“ในนี้ก็มีอีกคนนึงนะ...ที่อยู่ในเหตุการณ์นั้น” กุ๋ยๆพูดต่อ
“กุ๋ย..ไปอาบน้ำป่ะ” ชางมินตบบ่าแฟนสาวอย่างแรง
“ใครครับ..ใครอยู่ในเหตุการณ์นั้น..” เด็กหนุ่มคว้ามือกุ๋ยแน่น
สายตาหญิงสาวไปหยุดอยู่ที่บุคคลที่นั่นหน้าเครียดอยู่ข้างตัวเด็กหนุ่มหน้าหวาน
“พี่นี่แหละ...พี่โดนยิงที่นั่น...ตรงนี้” แทคยอนนิ่วหน้าพลางยกนิ้วชี้เข้าที่ข้างขมับตัวเอง
“พี่เหรอ” นิชคุณหันขวับมองแทคยอน
ชางมินนั่งเงียบ เค้ารอดูว่าสถานการณ์จะเลวร้ายไปกว่านี้ไหม ความซวยมันเริ่มตั้งแต่ที่เค้าไม่รู้ว่ากุ๋ยรู้เรื่องที่แทคโดนยิงที่นิวยอร์คได้ยังไง และเค้าก็ไม่รู้ว่าแทครู้เรื่องที่ตัวเองโดนยิงที่ธนาคารได้ยังไง เวลา3ปีที่ผ่านมา ผู้ชายที่นอนอยู่ในโรงพยาบาลรู้สึกยังไงกับเหตุการณ์นั้น เค้าไม่เคยพูดอะไร และไม่เคยถามอะไร
“ที่ว่านอนในโรงบาล3เดือน เกิดอะไรขึ้นกับเธอเหรอ” แทคยอนถาม สีหน้าเค้าไม่เครียดเหมือนเดิมแล้ว
“พ่อบอกว่า..ผมโดนตบด้วยด้ามปืนน่ะครับ..มีรอยแตกนิดหน่อยตรงนี้” นิชคุณปรับอารมณ์ตาม เค้าเปิดผมโชว์รอยเย็บที่หัวให้แทคยอนดู
“2เข็มครับ..เจ็บเท่ามดกัด” เด็กหนุ่มยิ้มร่า แต่ในใจกลับเจ็บปวด เค้าเจ็บแค่นี้ มันไม่ยุติธรรมเลยที่แทคยอนจะเจ็บมากขนาดที่จะทำให้ตายได้
“พี่ล่ะครับ..บอกได้ไหม..” เสียงเด็กน้อยเบาลง เค้าก็ลำบากใจที่จะถาม
“2ปีในโรงพยาบาล..ผ่าตัดแล้ว4ครั้ง...แต่ไม่สำเร็จน่ะ...แต่ก็ยังดีกว่า..นอนเป็นผักนะ..ใช่ไหมกุ๋ย” ชายผิวเข้มพูดพร้อมยักคิ้วให้กุ๋ยๆ
“อืม..ดีแล้วล่ะ...ที่นายลุกได้..พูด..ขยับได้..และตอนนี้ก็ลงจากคานได้สักที” กุ๋ยๆแซว เธอผิดที่พูดเรื่องเครียดขึ้นมา
“ไปอาบน้ำนอนเถอะ...เธอต้องกลับไปเอาเสื้อผ้าที่บ้านด้วยใช่ไหม...จะอาบที่นู่นหรอจะมาให้พี่อาบให้ที่นี่” แทคยอนแซวเด็กน้อยขำๆ นิชคุณหน้าเปลี่ยนสีขึ้นมาทันที
หลังจากแต่ละคนแยกกันไปทำธุระส่วนตัว นิชคุณกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อที่บ้าน กุ๋ยไปอาบน้ำ และกลับมาให้ยาแทคยอน ชางมินนั่งดูหนังที่ห้องนั่งเล่น
“พี่ครับ...” นิชคุณปีนกลับเข้ามาทางระเบียงบ้านแทคยอน เค้าเจอชางมินที่ห้องนั่งเล่น
“มีอะไรรึเปล่า” ชางมินถามพลางอ่านท่าทีของฝ่ายตรงข้าม
“เรื่องที่น้องชายพี่แทคพูดวันนั้น..พี่รู้ใช่ไหมครับ..พี่พอจะเล่าให้ผมฟังได้ไหม” นิชคุณรีบถาม
“นาย..แค่รักแทคให้มากๆและทำให้หมอนั่นมีความสุขก็พอ...เรื่องนั้นปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่เถอะ..” ชางมินตอบพลางสะบัดมือไล่นิชคุณให้ไปนอน
“ผมทำให้พี่เค้ามีความสุขได้..แต่ผมไม่มีความสุขเลย..ผมอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นั่น..วันนั้น..ผมอยากรู้ว่าเรื่องนี้มันเกี่ยวกับครอบครัวผมยังไง..พี่เข้าใจผมไหมครับ” นิชคุณตอบ
“เรื่องนั้น...มันเกี่ยวกับครอบครัวอาเธอ..มันไม่เกี่ยวกับเธอนิชคุณ..เธอกับแทคแค่เป็นเหยื่อของความอิจฉาเท่านั้น” ชางมินตอบ เค้าลุกขึ้นและดึงร่างเด็กหนุ่มหน้าสวยมากอดไว้
“นี่!!..เผลอเป็นไม่ได้เลยนะยะ..นั่นแฟนเพื่อนเธอนะ..แล้วฉันก็ยืนหัวโด่อยู่ตรงนี้” กุ๋ยๆแฮวตาขวาง
“ยัยอ้วนอย่าปัญญาอ่อนให้มากนัก..ไปนอนได้แล้วป่ะ” ชางมินถอยตัวห่างจากตัวนิชคุณเค้าขยี้หัวเด็กหนุ่มผิวขาวเบา1ที
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น