ไฟรักปมแค้น 7

สติแตก

บทที่7 : สะอื้น



เมื่อพระอาทิตย์สับเปลี่ยนเวรยามกับพระจันทร์ เด็กผิวขาวก็สะดุ้งตื่นเพราะได้ยินเสียงโหว้งเหว้งๆข้างๆตัว เค้าลืมตาขึ้นและพบว่าเจ้าของบ้านไม่ได้นอนข้างกายเค้าอย่างเมื่อคืน และประตูบานเลื่อนที่เชื่อมเข้าบ้านล็อกตายอยู่ เด็กผิวขาวลองขยับบานประตู2-3ทีก็ตัดใจ นิชคุณขยับตัวแนบกระจก เค้าอยากรู้ว่าคนหลังกระจกกำลังคุยอะไรกัน

“นายมันบ้า...จะตายอยู่แล้วยังหาเรื่องใส่ตัว...ถ้าฉันรู้ว่านายจะทำเรื่องโง่ๆแบบนี้...ฉันไม่ลางานมาดูแลนายหรอก” เสียงชางมินผู้ชายที่ชอบทำหน้าบูดตะคอกแหวดๆ

“ชางพอเถอะน่า...เธอพูดตอนนี้แล้วมันได้อะไร...แล้วก็เลิกพูดเรื่องจะตายซักทีขอร้องล่ะ” เสียงหญิงสาวเพื่อนแทคยอนดังขึ้นอีกคน

“งั้นเธอก็บอกเพื่อนรักเพื่อนเลิฟเธอสิให้มันทำตัวให้ดีกว่านี้ หนีออกมาจากโรงพยาบาลแล้วยังไม่มีระเบียบวินัยกับตัวเอง...ความเอาแต่ใจของมันจะทำพวกเราซวย..อยากโดนยึดใบประกอบโรคไหม...” ชางมินตวาดแว๊ดพร้อมทุบบานกระจก แผ่นกระจกใสสั่นสะเทือนจนนิชคุณสะดุ้งโหยง เด็กหนุ่มกระวนกระวายใจ

ป่วยและหนีออกมาจากโรงพยาบาล งั้นเรื่องที่ผู้ชายคนนั้นพูดเป็นเรื่องจริงเหรอ ผู้หญิงคนนี้เป็นหมอเหรอ นิชคุณรู้สึกสับสน เค้าคิดว่าตอนนี้เค้าควรกลับไปบ้านตัวเอง เด็กผิวขาวรีบปีนเข้าห้องนอนของตน

“ยอง..ขอเบอร์นักสืบเก่งๆสักคนสิ...ขอแบบที่ไม่ใช่ลูกหม้อพี่คิมนะ” นิชคุณโทรหาอูยองคนรักของพี่ชาย

“จะเอาไปทำอะไรง่ะ...แล้วไมนายไม่คุยกับคุณคิมล่ะ” อูยองถามกลับ

“ฉันไม่อยากทำเค้าเดือดร้อน...” เด็กหนุ่มพูดเสียงอ่อย

“ให้น่ะให้ได้นะ...แต่บอกได้ไหมจะสืบเรื่องอะไร” อูยองสงสัยหนักขึ้น

“คนรู้ยิ่งน้อยยิ่งดี...และถ้านายไม่รู้เลยก็ยิ่งดี” นิชคุณตอบเสียงเบา

จางอูยองให้เบอร์นักสืบกับนิชคุณโดยที่เค้าต้องสัญญาว่าจะลืมเรื่องนี้ไปซะและห้ามปริปากบอกใครแม้แต่เจ้านายสุดที่รัก

RRRRRRRRRRRRRRR

“ฮัลโหล...ครับ นั่นใครครับ” นิชคุณรับเบอร์แปลกที่โชว์บนหน้าจอมือถือของเค้า

“พี่เอง...นายว่างไหม”
 เสียงแหบพร่าของแทคยอนดังขึ้น สร้างความแปลกใจให้นิชคุณไม่น้อย

“ผมไปไม่ได้ครับ”นิชคุณตอบ 

เสียงปลายสายเศร้าสร้อยลงจนแทคยอนจับความผิดปกติได้

"ติดงานเหรอ" แทคยอนแสดงความผิดหวังออกมาในน้ำเสียงเด่นชัดด้วยเช่นกัน

"ครับ" เด็กผิวขาวรู้สึกผิดที่ต้องโกหกแทคยอน แต่ถ้าเค้าออกไปกับคนที่อาจินยองสั่งห้ามคบ มันจะเหมือนว่าเค้าท้าทายจินยอง และเค้าอาจจะโดนส่งตัวกลับบ้านวันนี้เลยก็ได้

"งั้นเหรอ...อืม...เอ่อ..อืม..ช่างมันเถอะ...งั้นไม่กวนแล้วล่ะ..ตั้งใจทำงานนะ" แทคยอนกระอั่กกระอ่วนที่จะพูดว่าเค้าเหงา

อีชางมินทะเลาะกับแทค1วันเต็มๆ เพราะคนไข้ของชางมินหนีออกจากห้องพักฟื้น ไปนอนกกเด็กข้างบ้านที่ริมระเบียงบ้านทั้งคืน สายน้ำกงน้ำเกลือก็ถอดออกเองหมด ยาที่ควรได้ก็ได้ไม่ครบ พอรุ่งสางเจ้าคนป่วยเลยป่วยหนักกว่าเดิม กุ๋ยตื่นนอนเป็นคนแรกเธอแหกปากกรี๊ดแทบลั่นบ้านเพราะเธอพบแทคยอนนอนสลบเหมือดอยู่ที่ชานบันไดบ้านชั้น2 แถมกุ๋ยยังสะดุ้งหัวใจตกไปอยู่ตาตุ่มซ้ำเมื่อเธอพบเด็กข้างบ้านนอนอยู่ท่ามกลางกองผ้าห่ม ราวตากผ้าของกุ๋ยถูกเนรมิตรให้กลายเป็นแคมป์กลางหุบเขา

สุดท้ายแล้วชางมินก็ต้องยอมความให้คนไข้ของเค้าเพราะกุ๋ยคิดว่าหัวใจที่เต้นด้วยความสุขจะยืดอายุได้มากกว่าคนไข้ที่หัวใจห่อเหี่ยว เธออยากให้แทคได้ทำในสิ่งที่เค้าอยากทำในช่วงเวลาที่เหลืออยู่

Rrrrrrr

"ครับ" แทคยอนรีบรับโทรศัพท์ทันทีที่เค้าเห็นเบอร์เด็กชายข้างบ้าน

"คุณจะออกไปเที่ยวรึครับ" นิชคุณครุ่นคิดในใจก่อนจะตัดสินใจโทรกลับไปหาแทคยอน บางทีถ้าเค้าปลอมตัวและนัดไปเจอกันข้างนอก มันจะเเปลกหรือลำบากไปไหม

"ไม่ไปแล้ว.." คนปลายสายตอบน้ำเสียงเศร้า

"ทำไมล่ะครับ" นิชคุณเลิกคิ้วสงสัยก่อนถามกลับไป

"ไม่อยากไปกับชาง..." แทคยอนตอบพลางมองหน้าชางมินและเมินหน้าหนีเพื่อน

"เหรอครับ..." เด็กผิวขาวพูดเสียงหงอย

"อะ..เอ่อ...เอิ่ม...คุณ..แทคยอน...ทานข้าวรึยังครับ" เด็กน้อยกลั้นหายใจก่อนจะถามออกไป

"ยัง...เธอล่ะ" แทคยอนตอบและถามกลับไป

"โว้ย!!...น่ารำคาญว่ะ..บ้านอยู่ใกล้กันแค่นี้..จะโทรหากันทำไมวะ..โว้ย!!...เอาโทรศัพท์มานี่" ชางมินตะบละแตก เค้าโวยวายและลุกมาแย่งมือถือจากคนไข้ของเค้า แทคยอนตกใจเค้ารีบกอดมือถือไว้กับตัว

"นายจะทำบ้าอะไร" คนไข้ผิวเข้มแยกเขี้ยวตาขวางขึ้นทันที

"ถ้าอยากเจอก็ไปเจอ...ถ้าอยากคุยก็ไปคุยสิ..จะมาเอ่อ..อ่า..เอ่อ.อ่าอะไรกันอยู่ได้..เห็นเเล้วหงุดหงิดโว้ย" ชางมินตวาดแว๊ดเสียงดังจนคนปลายสายหน้าแดงและหูชา

"ก็น้องเค้าไม่ว่างนี่" เจ้าของโทรศัพท์ลดเสียงจนเบาหวิว

"งั้นก็รอวันที่น้องเค้าว่าง" ชางมินตอบเสียงดังฉะฉาน

ตี๊ด!!

"อ๊ะ!!..นายทำอะไรน่ะ" แทคยอนตาวาวเมื่อเพื่อนหน้าบูดแย่งมือถือไปและกดวางสาย

"ทำตัวเป็นเด็กไม่เคยมีแฟน...เห็นแล้วทุเรศลูกตา"ชางมินแควะเพื่อน

"ใช่..ไม่เคยมีแฟน..จำเอาไว้ซะ...ฉันไม่มีเวลา..และเวลาหลังจากนี้ก็จะไม่มีเหมือนกัน" คนตัวโตเบะหน้าใส่ ดวงตาเรียวยาวมีน้ำใสๆเอ่อออ หัวใจชางมินกระตุกวูบ เค้าพูดสิ่งที่ไม่ควรพูดออกไป

"ขอโทษนะแทค"เพื่อนหน้าบูดรีบง้อแทคยอนทันที

"ช่างมันเถอะ..ฉันจะนอนแล้ว" พูดจบคนตัวโตก็เดินผละเข้าห้องนอนไป

"แทค!!..เดี๋ยว" ชางมินร้องตามหลังเพื่อนที่ตรงปรี่กับเข้าห้องนอนโดยไม่เหลียวหลัง

ปัง!!

            เสียงประตูกระแทกอย่างแรง เป็นอันรู้กันว่าชางมินไปเหยียบจุดใต้ตำตอของแทคยอนเข้า

"แทค..ฉันไม่ได้ตั้งใจจะ...ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้นจริงๆหรอก..นายเข้าใจใช่ไหม"ชางมินพูดเสียงเศร้าหน้าบานประตูห้องเพื่อน

Rrrrrrrrrr


เสียงโทรศัพท์ของเพื่อนตัวโตดังขึ้น ดูเหมือนว่าแทคยอนจะไม่ได้เอาโทรศัพท์เข้าห้องไปด้วย

"ฮัลโหลครับ" ชางมินถือวิสาสะรับโทรศัพท์แทนเพราะเค้ารู้ว่าใครโทรมา เบอร์ที่โชว์หราบนหน้าจอมือถือคือเบอร์โทรที่เค้าให้เพื่อนเค้าไปเองเมื่อเช้า

“พี่ครับ..ถ้าผมไปหาได้ไหม” นิชคุณรีบพูดทันทีที่เค้ารวบรวมความกล้าได้

“อืม” ชางมินตอบรับทันควัน

“เอ๋!!...ขอโทษครับ...ไม่ใช่คุณแทครึครับ” นิชคุณตื่นตระหนกเมื่อคนที่รับโทรศัพท์ไม่ใช่คนที่เค้าอยากโทรหา คนผิวขาวรีบก้มมองเบอร์โทรที่อยู่บนหน้าจอมือถือ เค้าคิดว่าเค้าไม่ได้โทรผิดแม่

“ชางมินพูดสายครับ...ฉันจะออกไปเปิดประตูให้..จะมาเลยใช่รึเปล่า” ชางมินถามกลับ เค้าปลงตกกับเรื่องของแทคยอนแล้ว อะไรจะเกิดก็ต้องปล่อยให้มันเกิด

“ถ้าผมไม่เข้าทางประตูหน้าบ้านได้ไหมครับ...” เด็กหนุ่มกระแอมไอด้วยความรู้สึกเขินอายนิดๆ

“ไม่เข้าทางหน้าบ้าน..แล้วจะเข้าทางไหนล่ะ” อีชางมินย่นคิ้วจนติดกัน เค้าไม่เข้าใจคนเขียนแปลนบ้านเลย ดูยังไงที่นี่ก็มีทางเข้าทางเดียว

“ประตูระเบียงครับ..เปิดให้ผมได้ไหม” เด็กน้อยเอียงอายที่จะพูด

“...เอ่อ...อืม...ได้” ชางมินอึ้งนิดๆก่อนจะแปลกใจสุดๆ

หลังจากนิชคุณวางสายไป ชางมินก็ไปบอกเพื่อนว่านิชคุณจะมาหา แต่คนในห้องกลับไม่ตอบอะไรออกมา ชางมินเลยว่าจะให้นิชคุณมาอัญเชิญเพื่อนเค้าออกมาเองอาจจะง่ายกว่า

อีชางมินไปเปิดประตูระเบียงให้นิชคุณ เด็กข้างบ้านหน้าตาดีปีนหน้าต่างห้องตัวเองออกมาลัข้ามมาที่ระเบียงบ้านเพื่อนเค้าอย่างง่ายดาย นิชคุณถูกสั่งให้รอที่ระเบียงบ้านไปก่อน ชางมินตัดสินใจไปเรียกเพื่อนอีกครั้ง แต่แทคยอนก็ยังคงดื้อดึง

“ตามมาสิ” อีชางมินตัดสินใจที่จะให้นิชคุณเข้ามาในตัวบ้าน

เด็กน้อยตัวขาวเดินตามเพื่อนเจ้าของบ้านเข้ามาในตัวบ้าน วันนี้ชางมินพาเค้าไปยืนอยี่หน้าห้องนอนห้องที่3 ห้องนี้เป็น1ใน2ห้องที่ถูกปิดตายไว้

“แทค...น้องเค้ามาหา...นายจะไม่ออกมาหน่อยเหรอ” ชางมินเคาะประตูห้องตาม เค้ารู้ว่าเพื่อนไม่ล็อกห้อง แต่เค้าก็มีมารยาทพอ

“คุณแทคยอนครับ...” นิชคุณลองออกเสียงเรียกดูบ้าง

“หมอนี่งอนน่ะ” ชางมินยิ้มแห้งๆ

เพล้ง!!

เสียงแก้วแตกดังออกมาถึงหน้าประตูห้อง ชางมินคิดว่าเค้าได้ยินเสียงเหมือนแก้วแตก
            “แทค!!” เพื่อนหน้าบูดตัดสินใจที่จะเข้าไปในห้องทันที

เมื่อบานประตูเปิดออก ภาพตรงหน้าที่นิชคุณเห็น ทุกอย่างในนี้เหมือนจำลองภาพของโรงบาล พนังห้องสีขาวบริสุทธิ์ ชุดเครื่องมือแพทย์เก่าๆเหมือนถูกใช้งานมาพอสมควร อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เค้าเคยเห็นในหนังมีแทบทุกอย่างในห้องนี้ ในนี้มีทุกอย่างจริงๆ ทั้งขวดยา หลอดสริงค์ สายน้ำเกลือ เครื่องให้น้ำเกลือ นิชคุณหันมองทุกอย่างในห้องนอนอย่างอึ้งๆ เมื่อมองไปที่พื้นเบื้องล่างเค้าพบขวดยาตกแตกกระจายเต็มพื้นห้อง

“แทค...นายทำบ้าอะไร..หยุดเลยนะ..”  เสียงชางมินดังเข้ามาในโสตประสาทของนิชคุณ ด้านหลังเตียงนอนมีชาย2คนยื้อหยุ้ดกันอยู่ที่พื้นห้อง

นิชคุณค่อยๆก้าวขาเข้าไปใกล้ๆมากขึ้น สิ่งที่เค้าเห็นคือภาพแทคยอนถือกระบอกฉีดยาอันใหญ่ยาวราวๆ1คืบด้านในบรรจุของเหลวสีใสๆ

“นายทำบ้าอะไร..นายทำอะไร...นายจะใช้มันทำอะไร...นายบ้าไปแล้วรึไง...หยุดเลยนะ..ปล่อยเข็มซะแทค” อีชางมินบีบขึ้นคร่อมร่างคนตัวโต เค้าบีบข้อมือของแทคยอนแน่น เค้าหวังว่าเพื่อนจะยอมปล่อยของในมือ

“ปล่อยฉัน...ปล่อย...อย่ามายุ่ง” คนตัวโตตวาดลั่น แทคยอนกำลังสติแตก เค้าดิ้นไปมาเพื่อให้ตัวเองหลุดจากการถูกยึด

“หยุดบ้าได้แล้วแทค...ใจเย็นๆสิ...แทคใจเย็น..ปล่อยของในมือซะ...แทคอย่าทำแบบนี้” อีชางมินพยายามหยุดการคุ้มคลั่งของคนไข้เค้า

“ปล่อย..ฉันบอกให้นายปล่อยฉัน!!” คนตัวโตอาละวาดจนเน้อตัวแดงก่ำ

“อยากกลับไปนอนโรงพยาบาลอีกเหรอ...หรือนายอยากให้พวกฉันจับนายมัดไว้กับเตียง..แทค..เราตกลงกันแล้วไม่ใช่เหรอ...ที่ฉันยอมมาอยู่ตรงนี้เพราะนายนะ...ที่กุ๋ยทำแบบนี้เพราะเธอห่วงนาย...อย่างน้อยถ้านายไม่ห่วงตัวเอง นายก็ควรห่วงกุ๋ยกับครอบครัวนายบ้าง” ชางมินตะคอกใส่คนไข้ของเค้าเสียงดัง

“ฉันไม่อยากอยู่แล้ว..ไม่อยากทรมาน..ไม่อยากมีชีวิตแบบนี้...ทำไมฉันไม่ตายไปตั้งแต่ตอนนั้น..พวกนายช่วยฉันไว้ทำไม...ปล่อย!!” คนตัวโตกรีดร้องทั้งน้ำตา แทคยอนร้องไห้ออกมาเสียงดังราวกับหัวใจของเค้ากำลังแตกสลาย

เสียงหวีดร้องของชายที่นอนอยู่เบ้องหน้านิชคุณ ทำเอาเด็กหนุ่มผิวขาวแทบจะสะอื้นตาม
ชางมินรู้สึกตัวเค้ารู้ว่านิชคุณยืนอยู่ในห้องนี้ด้วย

            “ช่วยหน่อยสิ...กอดเค้าไว้ที...แค่กอดก็พอ..ได้ใช่ไหม” ชางมินยื้อของในมือเพื่อนมาได้ เค้ารีบเอาหลอดยาไปทิ้ง ชายหน้าบูดลุกขึ้นและหันมาพูดกับเด็กหนุ่มผิวขาวที่ยืนนิ่งเงียบงัน

            “คับ” นิชคุณตอบตกลง เค้าย่อตัวลงนั่งตรงหน้าแทคยอน เค้าดึงร่างของผู้ชายอายุมากกว่ามากอดไว้ เสียงอื้นของแทคยอนทำให้เด็กผิวขาวรู้สึกเจ็บจี๊ดไปด้วย

            อีชางมินจัดแจงเต็มเครื่องมือผ่าตัดชุดเล็กขึ้นมาปูบนโต๊ะทำงาน เค้าเตรียมของที่ต้องใช้ จากนั้นก็มาช่วยนิชคุนพยุงร่างเพื่อนขึ้นมานั่งบนเตียงนอน

            “ฉันจะไม่ให้ยานายเยอะ..นายต้องทน..นี่เป็นบทลงโทษที่นายทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลัง” ชางมินพุดจบก้ส่งผ้าขนหนูม้วนเป็นท่อนยาวยื่นใส่ปากเพื่อน

            แทคยอนกัดผ้าไว้ในปาก ก่อนจะซบหน้าลงบนซอกคอของเด็กหนุ่มข้างบ้านที่ยังคงกอดร่างเค้าไว้ นิชคุณนิ่งเงียบเค้าเห็นภาพบางอย่างซ้อนทับร่างแทคยอนตอนที่ชายคนนี้นอนอยู่กับพื้น เด็กน้อยกอดร่างคนอายุมากกว่าไว้ขณะที่ชางมินบรรจงกลัดเข็มลงบนเนื้อแทคยอนทีละเข็ม แผลจากปลายเข็มฉีดยาเบอร์ใหญ่บาดเนื้อแทคยอนเหวอะเป็นทางยาว  ผลมาจากการยื้อแย่งของในมือกันเมื่อครู่

            “เสร็จแล้ว...ฉันชอบนายก็ตรงที่นายทนเจ็บได้ดีนี่แหละ” ชางมินพุดจบก็ตบบ่าเพื่อนเบาๆ เค้าจัดการเอาเครื่องมอไปล้าง และเริ่มเก็บข้าวของที่ตกกระจายเต็มพื้นห้อง

            “ความจริงฉันควรให้นายมาเก็บเองนะ...เฮ้อ..นายรู้ไหมว่ายาพวกนี้มันแพงและหายาก..ถ้ายัยอ้วนนั่นกลับมา..รับรองนายหูชาแน่” อีชางมินบ่นกระปอดประแปดไปเรื่อย


            





ความคิดเห็น