ท้าทาย
" อืม อ่า ควอนแรงกว่านี้สิ อ่า ยกตัวขึ้นอีกนิดสิ “ เสียงแหบกระเส้าของชายร่างใหญ่ดังขึ้นข้างหูเด็กหนุ่มผิวขาว
" อา อ๊า อย่าครับพี่ พี่อย่ากัดนะคับ ถ้ามีรอยเพิ่ม
พี่คุณไม่ปล่อยพี่ไปแน่...อ่า.." โจควอนขยับคอหนีริมฝีปากคนรัก
'ถ้านายไม่เจ็บมันก็ไม่สนุกน่ะสิควอน' ชายหนุ่มร่างใหญ่พึมพำในใจ
เค้าอยากทำแรงๆ อยากให้ร่างขาวๆในมือบอบช้ำ อยากให้ไอ้นิชคุณสติแตก sexกับผู้ชายก็สนุกดี
แล้วไม่ต้องกลัวเรื่องท้องด้วย ดักควายได้1 ตัว
" น้องควอนครับ
พี่ต้องไปสัมนาต่างประเทศ เราอาจไม่ได้เจอกันหลายวันหน่อยนะครับ "
แฟนหนุ่มของโจควอนพูดเสียงกระเส้า
"ไปศึกษางานแล้วอย่าลืมกลับมาสอนผมบ้างนะครับ..อย่าเที่ยวเล่นเถลไถล..รีบกลับมานะครับ
พี่ อ๊า.."
ภายในวอร์ดจิตเวชของโรงบาล
วอร์ดนี้เป็นวอร์ดที่เข้มงวดที่สุดอยู่ลึกที่สุดราวกับพยายามสร้างเพื่อป้องกันไม่ให้คนภายนอกได้เห็น
ตัวตึกสีขาวขนาดใหญ่ประดับด้วยหน้าต่างกระจกอย่างหนา มองจากด้านในไม่เห็นด้านนอก
มองจากด้านนอกไม่เห็นด้านใน ทุกจุดในตึกนี้มีรปภ.ดูแลแน่นหนา และมีเจ้าหน้าที่ทั้งชายและหญิงผลัดเปลี่ยนประจำการกันตลอด24ชม.
เฮ้อ!!
โจควอนนั่งถอนหายใจอยู่บนโซฟาใหญ่กลางห้องบำบัดจิตรวม
เค้าเป็นผู้ป่วยคนเดียวที่มีห้องนอนแยก ห้องบำบัดแยก
เพราะนิชคุณไม่อยากให้เจ้าหน้าที่คนอื่นรับรู้มากนัก แต่โจควอนไม่ชอบการอยู่คนเดียวเค้ารู้สึกราวกับถูกกักขัง
จุนโฮที่เพิ่งออกตรวจเสร็จ เค้าตั้งใจมาหาโจควอนก่อนหน้านี้นานแล้ว
แต่ก็ติดเคสฉุกเฉิน จนกระทั่งเพื่อนตัวขาวของเค้าโผ่ลหัวมาเยี่ยมน้องชาย จุนโฮตั้งใจมาบอกว่านิชคุณมาเยี่ยม แต่พอเห็นใบหน้าเศร้าๆของโจควอนเข้า เค้าก็เปลี่ยนเรื่องที่จะพูดทันที
"ไง...เด็กน้อย..เบื่อเหรอ " จุนโฮร้องทัก
"อ๊ะ!!พี่โฮสวัสดีครับ...คือ..ผมเบื่อครับ "
โจควอนที่นั่งกอดเข่าก้มหน้างุดอยู่ที่โซฟารีบลุกขึ้นทำความเคารพเพื่อนของพี่ชายทันที
ก่อนจะทิ้งตัวลงไปนั่งบนโซฟาอีกครั้งอย่างเหงาเศร้าเซง
"พี่โฮ..ควอนขอ..เอ่อ..
ไปเดินเล่นที่สนามได้ไหมครับ..นะครับ " ควอนเงยหน้าขึ้นมองพี่หมอจุนโฮ
เว้าวอนขอด้วยการหรี่ตาให้เล็กลง ให้เล็กกว่าที่เป็นอยู่
เค้าเกือบจะต้องแกล้งบีบน้ำตาด้วยแล้ว
"
อืม..อนุญาติดีไหมนะ" จุนโฮแกล้งทำสีหน้าครุ่นคิด
แต่สีหน้าของเค้าเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม
" นะครับพี่โฮ!!"
ควอนพนมมืออ้อนวอน
"
ก็ได้นะ..แต่ห้ามหนี...ห้ามดื้อ โอเคไหม" จุนโฮอนุญาติพร้อมกำชับโจครวนทันที
"
ขอบคุณครับ..พี่โฮใจดีที่สุดเลย" โจควอนกระโดดโลดเต้น
พร้อมทั้งกระโดดกอดคอจุนโฮ เค้าหอมแก้มจุนโฮ1ที เป็นการขอบคุณ
"ควอน!!.."
จุนโฮทำหน้าเหว๋อตกใจสุดๆที่อยู่ๆโจควอนก็มาหอมแก้มเค้าแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย
"..ตกใจอะไรกับครับพี่โฮ..จุ๊บขอบคุณไง..คิคิ..อย่ามาทำเป็นไม่เคยสิครับ..พี่หมีไม่ทำหรือครับ"
โจควอนฉีกยิ้มกว้าง
"
อ่า..เหรอ..อย่าทำกับพี่แบบนี้ต่อหน้าไอ้คุณนะ..เดี๋ยวพี่โฮจะซวย"
จุนโฮปรามโจควอนทันควัน
"
เรื่องไร้สาระ..พี่คุณน่ะชอบคิดมากไปเรื่อย" โจควอนย่นจมูกด้วยความไม่พอใจ
"อ่อใช่ลืมบอกไป..พี่ชายของนายมาแล้วนะ" จุนโฮสบตากับคนร่างเล็ก
ท่าทีของโจควอนสงบลงเมื่อเค้ารับรู้เรื่องการมาของพี่ชาย
โจควอนเบือนหน้าหนีจุนโฮทันที เค้ายังไม่อยากเจอนิชคุณ
เนื่องจากโจควอนไม่ใช่ผู้ป่วยที่จำเป็นต้องอยู่ในวอร์ดตลอดเวลา
แต่เพื่อความปลอดภัยจุนโฮก็ให้เจ้าหน้าที่พยาบาลคอยตามดูแลควอนห่างๆ
ทางเดินสีขาวเชื่อมจากวอร์ดผู้ป่วยนอกเข้าสู่ตึกผู้ป่วยใน
ลีจุนโฮในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกาว์นยาวของหมอออกไปต้อนรับเจ้าของโรงพยาบาลนี้
นิชคุณมาในชุดเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนลายตารางหมายรุกแบบสบายตา มีแว่นตาสีขาว
และหมวกใบจากขาวสานครอบหัวไว้ พวกเค้าเดินเคียงข้างกัน
เข้าสู่ตัวตึกที่อยู่ลึกที่สุด
ประตูกระจกกันกระสุนบานคู่แบบอัตโนมัติเปิดต้อนรับชายหนุ่ม 2 คน ชายทั้ง2 เดินตรงไปยังห้องอาหาร และเหมือนเคยวันนี้นิชคุณเลือกนั่งที่โต๊ะตัวในสุดของโรงอาหารซึ่งอยู่ติดกับร้านราเมงเจ้าประจำ
วันนี้แปลกกว่าทุกวันเพราะบรรดาเจ้าหน้าที่หลาย10คนมายืนออต่อคิวหน้าร้านราเมงยาวเป็นหางว่าว
แถมยังมีเสียงคุยดังเจี๊ยวจ๊าวจนนิชคุณรู้สึกหงุดหงิด
"วันนี้มีอะไรรึไงนะ"
นิชคณพูดพลางชะเง้อมองไปด้านหน้าสุดของแถว
"
เมนูออกใหม่น่ะ...เป็นแบบนี้ประจำแหละ"
ลีจุนโฮตอบกลับพลางส่งยิ้มหวานให้กับเจ้าหน้าที่ชายคนอื่น
"น่าตื่นตาตื่นใจขนาดนั้นเลยเหรอ...แค่เมนูใหม่เนี่ย" นิชคุณเบะปากก่อนจะแทรกตัวผ่านพนักงานของโรงพยาบาลเข้าไปที่นั่งประจำของตัวเอง
"เมนูใหม่น่ะไม่น่าตื่นเต้นอะไรหรอก...แต่คนขายน่ะนานๆมาที"
จุนโฮตอบพลางส่งเงินให้กับเพื่อนหมอของตน เค้าฝากเพื่อนต่อคิวเอาไว้
"คนขายนานๆมาที...มีอะไรน่าสนใจขนาดนั้น" นิชคุณแค่นจะหัวเราะออกมา
"วันนี้จะได้กินข้าวไหมเนี่ย..เฮ้อ!!" เจ้าของโรงพยาบาล
หันมองปลายแถวของร้านราเมงอย่างเป็นห่วงกระเพาะตัวเอง
"ได้กินสิ...ถ้านายไปต่อแถวตอนนี้...ไม่ต้องกลัวหรอกรายนี้มือโปรปากไว
มือไวด้วย" จุนโฮยกมือขึ้นปิดปากตัวเอง เค้ากำลังนินทราคนที่ไม่ควรนินทาอยู่
"แล้วนายล่ะ..."
นิชคุณถามกลับอย่างสงสัยเมื่อเพื่อนสนิทยังคงนั่งยิ้มอยู่ที่โต๊ะอาหารกับเค้า
"อีก2คิว ได้กินล่ะ"
ลีจุนโฮตอบและฉีกยิ้มให้เพื่อนซี้
"เฮอะ!!...ไม่มีน้ำใจเลยนะ" นิชคุณเเยกเขี้ยวใส่เพื่อนร่างอวบ
เจ้าของโรงพยาบาลขยับตัวเล็กน้อย เค้าใช้หมวกปิดบังใบหน้าของตนก่อนจะลุกขึ้นไปยืนต่อแถว
และเป็นอย่างที่เพื่อนเค้าพูดไว้แถวขยับลื่นไหลเร็วมาก
"ราเมงกิมจิ2ที่ครับ"
นิชคุณเอ่ยพลางส่งบัตรคูปองเงินสดให้กับพ่อค้า โดยไม่ทันได้มองอะไร
"ใส่หมวกในที่ร่มระวังหัวล้านนะครับ"
เสียงทุ้มแหบพราของพ่อค้าดังขึ้นขัดจังหวะความคิดของนิชคุณ
เค้ากำลังมองหม้อทงคัตซึที่ขาวค้นคลั่กในครัวอย่างใช้ความคิด
"คุณว่าอะไรนะครับ"
เจ้าของโรงพยาบาลสะดุ้งเฮือกเมื่อถูกทัก
"ผมบอกว่าระวังหัวล้าน" เมื่อเสียงทุ้มแหบพูดจบ
มือใหญ่หนาของพ่อค้าตรงหน้าก็เอื้อมมาดึงหมวกใบจากออกจากหัวนิชคุณอย่างถือวิสาสะ
"คุณทำบ้าอะไรน่ะ!!...เอาหมวกผมคืนมานะ"
คนผิวขาวตกใจเมื่อชายตรงหน้าที่เค้าเห็นคือผู้ชายที่เค้าเห็นเมื่อวันก่อน
คนที่นอนกลิ้งอยู่บนสนามหญ้า
"โอ๊ะ!!...ขอโทษครับ...คุณผู้หญิง..ผมขอโทษที่เสียมารยาทจริงๆ"
แทคยอนรีบส่งหมวกสีขาวในมือคืนให้กับเจ้าของทันที
"เสียมารยาทที่สุด!!....และขอโทษนะ...ผมเป็นผู้ชาย"
นิชคุณแยกเขี้ยวยิงฟันอย่างโมโห
เค้ากระชากหมวกของตนกลับมาและรีบใส่ลงบนหัวตัวเองอย่างรวดเร็ว
"เอ๊ะ!!....ผู้ชายเหรอ" แทคยอนเบิกตาโต พร้อมฉีกยิ้มกว้าง
กว้างชนิดที่เห็นฟันเหยินๆครบ32ซี่
"ยิ้มอะไรมิทราบ" นิชคุณถามกลับอย่างหัวเสีย
"ตรงนี้น่ะ..." แทคยอนยกนิ้วของตนขึ้นมาชี้ที่หน้าผากตัวเองช้าๆ
"ทำไม...มีอะไร" นิชคุณยกมือขึ้นจับหน้าผากตัวเอง ช้าๆ เค้ากำลังคิดว่าเค้ากำลังจะถูกล้อแน่ๆ
“ มันเริ่มล้านแล้วนะครับ อย่าใส่หมวกบ่อยๆเลย “ ชายผิวสียิ้มบางๆส่งให้ ในขณะที่มือของเค้าก็ทำหน้าที่ของตัวเองไป
"นี่คุณ!!.....เกินไปแล้วนะ"
ชายผิวขาวกำมือทุบชั้นวางอาหารอย่างเหลืออด เสียงดังสนั่นเรียกความสนใจให้คนรอบตัวได้หันมามองเป็นทิวแถว
"อ่ะนี่ได้แล้ว...ทงคัตซึราเมง2ที่ ทานให้อร่อยนะครับ"
ชายผิวเข้มตอบพลางฉีกยิ้มหน้าตายไม่สนใจอารมณ์ที่คุกรุ่นของคู่สนทนาสักนิด
"ทงคัสซึอะไรของคุณ...ผมสั่งราเมงกิมจินะ!!"
นิชคุณแว๊ดออกมาเสียงดังจนเจ้าหน้าที่รอบๆตัวหันมองเป็นตาเดียวกันอีกครั้ง
"อ่านป้ายนะครับ...ตรงนั้น" แทคยอนผลายมือออก
และยกขึ้นชี้ไปที่แผ่นป้ายที่แปะอยู่บนกำแพง
"ทงคัตซึ!!
เท่านั้น...วันนี้ไม่มีราเมงกิมจิ..เพราะวันนี้ผมขี้เกียจทำหลายเมนู...มองเห็นไหมหรือไม่ได้อ่าน...หรือสายตาสั้นครับ...ให้ผมอ่านให้ฟังอีกทีไหม"
แทคยอนฉีกยิ้มหวานด้วยใบหน้าดุดันราวกับยักษ์วัดแจ้งที่นิชคุณเคยเห็นตอนเด็กๆที่ประเทศไทย
"ขอโทษครับ" ชายหนุ่มผิวขาวอ่านป้ายบนกำแพงอย่างรู้สึกผิดนิดๆ
"ไม่เป็นไรครับ...ผมอภัยให้..เอาเป็นเราหายกันนะครับสำหรับเรื่องหมวกของคุณ...รีบทานเถอะครับเดี๋ยวเย็นจะไม่อร่อย.."
แทคยอนยิ้มหวานให้อีกครั้ง ก่อนจะเดินหายเข้าไปหลังห้องครัวเพราะมีโทรศัพท์ตามตัว
นิชคุณยกชามทงคัตซึกลับมาที่โต๊ะทานข้าวอย่างเซงๆ
เกิดมาเค้าเพิ่งจะเคยโดนคนอื่นกวนโทสะ คนอื่นที่ไม่ใช่ก๊วนที่สนิทกัน
"เป็นอะไร...ตะกี้ฉันได้ยินเสียงนายแว๊ดด้วย"
จุนโฮเงยหน้าขึ้นจานชามทงคัสซึ เพื่อคุยกับเพื่อนผิวขาว
"หมอนั่นกวนชะมัดเลย" นิชคุณเปรยเสียงเบาลง
และเค้ากำลังจะเริ่มทานทงคัสซึฝีมือจอมกวนนั่น
"ใคร" จุนโฮเลิกคิ้วถามอย่างสงสัย
"หัตถุเทวะค่าตัวถูกของพวกนายไง...ให้ตายสิ..หมอนั่นไร้มารยาทจริงๆ" นิชคุณทำตาขวางเมื่อพูดถึงชายฟันเหยิน
"เค้าคุยอะไรกับนาย!!" จุนโฮตกใจเมื่อรู้ว่าแทคยอนคุยกับนิชคุณ
“ไม่มีอะไรหรอก..ช่างมันเถอะ”
คนผิวขาวก้มหน้ากินบะหมี่โดยเลี่ยงที่จะตอบคำถามเพราะเค้าเพิ่งโดนล้อเรื่องหัวเถิก
‘คอยดูนะ!!....ไอ้เหยินเอ๊ย!!’
นิชคุณขยับปากบ่นหมุบหมิบคนเดียว
“คุณ..”
จุนโฮเรียกชื่อเพื่อน
“อะไร!” นิชคุณเงยหน้าตอบ
“หมออ๊คเค้าอายุเยอะกว่านายหลายปีนะ...ฉันว่านายควรใช้ภาษาสุภาพดีกว่า”
จุนโฮพอเดาได้ว่าเพื่อนเค้ากำลังหงุดหงิดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับอ๊คแทคยอน
“ไม่บอกไม่รู้เลยนะ..หน้าแก่ขนาดนั้น”
คนผิวขาวฉีกยิ้มโชว์ฟันขาวประชดเพื่อนสนิท
“ถ้านายรู้...นายก็ควรจะมีมารยาทสักนิดนะ”
จุนโฮแควะกลับ
“ฉันสงสัย...ทำไมหมอศัลยแบบเค้าถึงมาเดินลอยชายอยู่ในวอร์ดนาย”
นิชคุณตั้งข้อสังเกตุ นี่เป็นครั้งที่2แล้วที่เค้าเจออ๊คแทคยอน
“จิตอาสาน่ะ”
จุนโฮตอบเสียงเบาลง
“จิตอาสาเนี่ยนะ....ที่นี่มีอะไรให้ช่วยเหรอ”
นิชคุณงงหนักขึ้นอีก
“ถ้าช่วงเย็นนายว่างก็แวะมา..เดินเล่นที่นี่สิ...”
จุนโฮกล่าวด้วยสีหน้าสลดใจเพียงชั่ววูปก่อนจะปรับเปลี่ยนสีหน้าตนเองอย่างรวดเร็ว
“ถ้าว่างล่ะก็นะ....เฮ้อ!!...ฉันอิ่มแล้ว....เราคุยเรื่องงานกันเถอะ” นิชคุณถอนหายใจยาว
เมื่อเค้าคิดถึงโจควอนเค้าก็เครียดขึ้นมาอีก
นิชคุณและจุนโฮเดินกลับเข้ามาที่วอร์จิตเวชแต่ก็ต้องสะดุดหยุดยืนอยู่กับที่เพราะได้ยินสาวๆพยาบาลคุยกันเสียงดังสนั่น
"รู้ยังจ๊ะ..หมอซีแต่งงานแล้วนะ!!" เสียงเจี๊ยวจ๊าวดังมาจากหน้าเคาเตอร์ พยาบาล
"แต่งงานอะไรกัน..ไม่เห็นหมอซีเคยพูดเลยนะ..การ์ดมีสักใบ" พยาบาลสาวอีกคนพูดแทรกขึ้นมา
"แต่งงานบ้าอะไรกัน...หมอเค้าไปสัมมนาตะหากล่ะ" พยาบาลอีกคนออกความเห็นบาง
" ใครแต่งงานครับพี่พยาบาล " หมอลีจุนโฮทักสาวๆพยาบาลด้วยความอยากรู้อยากเห็น เค้าไม่เห็นเคยได้ยินเลยว่ามีเพื่อนหมอคนไหนในแผนกวางแผนแต่งงานกันเดือนนี้
" หมอซีวอนค่ะ หมอซี เทพบุตรของเรา คุณหมอเค้าแต่งงานกับสาวสวิตเมื่อวานนี้ค่ะ เพื่อนพี่ที่ทำงานที่ทำงานโรงพยาบาลที่สวิตtagรูปมาให้" พยาบาลสาวแผนกจิตเวชพูดไปทำหน้าเบ้เหมือนจะร้องไห้
"แต่งงานไม่บอกเลย..เสียดายจัง" พยาบาลสาวอีก2-3คนนั่งน้ำตาซึม
“ท้องก่อนแต่งรึเปล่าน่ะ..หมอซีเคยไปสัมมนาที่สวิตด้วยนี่..ภรรยาเป็นหมอเหมือนกันรึเปล่านะ” พยาบาลสาวเม้าส์มอยค์กัน
'แต่งงานเหรอ...ก็ดีนะ...ในบรรดาตระกลูเรา...ได้มีคนเป็นฝั่งเป็นฝาบ้างก็ดีเหมือนกัน ว่าแต่จัดงานแต่งงานทั้งทีจะไม่บอกกันเลยรึไงนะ..พี่ซีนี่ก็แปลก..ทำตัวแปลกขึ้นทุกวัน' นิชคุณเปรยคนเดียวขณะมองพนักงานสาวๆคุยกันสนุกสนาน
ซีวอนเป็นลูกพี่ลูกน้องของเค้าและโจควอน พวกเค้าเป็นเหมือนพี่น้องสายเลือดเดียวกัน ก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุกับพ่อแม่นิชคุณ ทั้งนิชคุณและซีวอนต่างก็รู้ว่าพ่อแม่ของพวกเค้าไม่ถูกกันมานานแล้วเรื่องมรดกครอบครัว ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างนิชคุณและซีวอนไม่ค่อยดีตามไปด้วย แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นที่จะไม่คุยกัน ซีวอนเป็นคนเงียบๆ ยิ่งพ่อแม่เค้ากดดันเรื่องหุ้นโรงพยาบาลมากขึ้นเท่าไหร่ ซีวอนก็ยิ่งเงียบขรึมมากขึ้นเท่านั้น บ่อยครั้งที่นิชคุณรู้ว่าซีวอนกลุ้มใจ แต่เค้าก็ช่วยอะไรมากไม่ได้ เค้าทำได้แค่เพิ่มเงินให้ซีวอนด้วยข้อแก้ตัวต่างๆนาๆที่เค้าพอจะทำได้ แต่หลังจากพ่อแม่ของนิชคุณเสียชีวิต พ่อแม่ซีวอนเข้าเทคโอเวอร์บริษัทของพ่อนิชคุณ ทำให้เค้าครอบครัวล้มละลาย และเค้าเกือบจะเสียหุ้นในโรง พยาบาลของแม่ไปด้วยแต่โชคดีที่ชานชองยื่นมือเข้าช่วย เค้าถึงไม่เสียสิ่งยึดเหนี่ยวสุดท้ายของเค้าไป นิชคุณรู้ว่าไม่ใช่ความผิดของซีวอนเพราะทุกอย่างมันแค่เรื่องของผู้ใหญ่ที่ผิดใจกัน
" ฉันไม่เข้าใจเลย..ทำไมหมอซีไปแต่งกับสาวบ้านนอกชิ!! .." คนปล่อยข่าวสำทับเพิ่ม
"ตกลงไม่ใช่หมอเหรอ..เซลล์ขายยาก็ไม่น่าใช่..พวกนี้รวย....บอกมาเลยดีกว่าไหมจ๊ะน้อง..มาทำให้อยากอยู่นั่น!!" พยาบาลสาวอีกคนก็เริ่มเคือง
“อยากบอกใจจะขาดย่ะ!! แต่พูดไม่ได้ต้องรอเจ้าตัวมาพูดเองน่ะ" ต้นเรื่องสำทับ
" ย่ะห์!! นี่!! ใช่เวลาคุยกันไหมพวกเธอ..อยากโดนเด้งรึไงห๋า!!.." คุณป้าหัวหน้าพยาบาลเดินผ่านเข้ามาเจอสาวๆเม้าส์มอยด์กันเลยรีบดุ แล้วทำมือไล่ทุกคนให้กระจายตัวไป
หึหึ นิชคุณยกยิ้มหัวเราะเบาๆ 'ดีจังได้ทำงานกับคนหมู่มากได้หัวเราะ ได้กรี๊ด ได้มีความสุข ไม่ต้องเก็บซ่อนความรู้สึกตัวเอง' เพียงชัวว์พริบตาเดียวคนผิวขาวก็หุบยิ้มลง
กร็อป!!
เสียงแก้วน้ำพลาสติกยับยู่คามือสีขาวเล็ก น้ำเปล่าในถ้วยไหลหกเต็มมือและหน้าขาของเจ้าของแก้ว
" นังนั่งเป็นใคร !! " โจควอนที่บังเอิญมานั่งหลบนิชคุณได้ยินสิ่งที่บรรดาพี่พยาบาลพูด คนร่างเล็กเดือดดาลกัดฟันกรอดๆ เค้าเริ่มกัดริมฝีปากแดงๆของตัวเองจนเลือดซึม
" บ้าเอ๊ย!!...จะทำยังไงดี...ฉันไม่ยอมนะ.. " โจควอนร้อนใจ เค้าโดนสั่งห้ามใช้เครื่องมือสื่อสาร หรือเค้าต้องขโมย หรือต้องขอยืมจากคนแปลกหน้าที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่พยาบาลที่รู้จักเค้า เค้าต้องการสืบเรื่องซีวอน ใครหน้าไหนก็ห้ามมาขวาง!!โจควอนพาร่างซีดขาวของตัวเองโต๋เต๋ลงไปที่สนามหญ้าส่วนพักผ่อนของผู้ป่วยตึกจิตเวช
“ไหนพี่บอกว่าแค่สัมมนา..พี่โกหกควอนเหรอ” โจควอนพูดคนเดียว เค้าเดินวนรอบสนามราวกับหนูติดจั่น
' ทำไงดี..ต้องขอยืมมือถือใครสักคน' โจควอนมองผู้คนรอบๆตัว.. ใครดี ใครที่ดูเป็นมิตรมากๆ
5555 เสียงหัวเราะ ดังมาจากเก้าอี้ด้านหลังครวน โจควอนหันควับไปด้วยความหงุดหงิด อารมณ์ของคนร่างเล็ก เค้าหงุดหงิดกับทุกอย่างรอบด้านโดยเฉพาะเสียงดัง ทันที่ที่เด็กร่างเล็กหันหลังไป เค้าก็พบกับหมอแผนกศัลยกรรม โจควอนเคยเห็นผู้ชายคนนี้ผ่าตัด2-3ครั้ง วันนั้นพอดีว่าเค้าว่างมาก พี่หมีชานกำลังพาเด็กนักเรียนแพทย์ไปดูเคสสตัดดี้ ควอนเลยมู๊บตัวเองเข้าไปดูเป็นวิทยาธานด้วย ผู้ชายคนนี้เทพจริงอะไรจริง และใจดีมากจริงๆ เสียดายที่ไม่ใช่เกย์
'ยิ่งได้เห็นใกล้ๆหมอศัลยเพื่อนพี่หมีคนนี้หน้าตาดีทีเดียว เอาไงดี...หมอเค้ามาทำอะไรที่ตึกนี้เนี่ย..หลอกหมอ..เค้าจะเชื่อไหมเนี่ย.' โจควอนครุ่นคิดในใจ
คนผิวสีเข้มเอามือล้วงกระเป๋าในท่าทางสบายๆเค้าพูดคุยกับบุรุษพยาบาลของแผนกที่ดูเหมือนว่าเพิ่งย้ายมาใหม่
" เอ่อ..คุณครับ..คุณหมอ..ผมขอยืมโทรศัพท์ได้ไหมครับ" โจควอนตัดสินใจลองขอยืมโทรศัพท์จากเพื่อนพี่หมี และพยายามก้มโค้งแสดงความสุภาพ
ชายตัวโตหยุดบทสนทนาและหันมองตามเสียงที่ดังมาจากด้านข้างกายตน เค้ามองเด็กตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า แทคยอนม่องแบบเพ่งพินิจ เด็กตรงหน้าเค้าอายุน่าจะราวๆ22-23ปี และหน้าตาโคตรจะคุ้นหน้า
" เอาไปทำอะไรรึ" แทคยอนถามกลับอย่างเป็นมิตร
ในขณะที่คู่สนทนาของแทคยอนก็มองควอนแบบสนอกสนใจเช่นกัน
" ใครน่ะแทค?" ชายตัวขาวในชุดผู้ป่วยถามขึ้น
" ไม่รู้อ่ะ.." แทคยอนตอบคำถามเจย์เพื่อนสนิทของเค้า
" ผมอยากคุยกับพี่ชายครับ พี่ชายผมแต่งงาน ผมอยากอวยพรเค้า แต่ผมไม่มีโทรศัพท์..ผมขอยืมคุณหมอได้ไหมฮะ." ควอนแกล้งบีบน้ำตาใส่พี่หมอชายตรงหน้า
" รอแปปนะ" แทคยอนล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋ากาว์นยื่นให้
"แทคอย่า!!....มันผิดกฎนะ...เด็กคนนี้เป็นคนไข้..เราไม่อนุญาติให้เค้าใช้โทรศัพท์" ปาร์เเจบอม ออกปากเตือนแทคยอนทันที
"พี่ครับ...ปกติเค้าให้ใช้ได้ไม่ใช่รึครับ...ถ้าหากว่ามีพยาบาลอยู่ด้วย...ได้ไหมครับ...นะครับ...ผมรอจนถึงเวลาที่เค้าให้โทรไม่ได้หรอกนะครับ" โจควอนครุ่นคิดถึงกฎข้อห้ามในวอร์ดและใช้มันเป็นไม้ตายสุดท้ายที่พอจะทำได้ตอนนี้
"พี่ก็อยู่นี่...ไม่เป็นไรหรอกมั้ง" แทคยอนออกความเห็น
"แทคอย่า!!....มันผิดกฎนะ...เด็กคนนี้เป็นคนไข้..เราไม่อนุญาติให้เค้าใช้โทรศัพท์" ปาร์เเจบอม ออกปากเตือนแทคยอนทันที
"พี่ครับ...ปกติเค้าให้ใช้ได้ไม่ใช่รึครับ...ถ้าหากว่ามีพยาบาลอยู่ด้วย...ได้ไหมครับ...นะครับ...ผมรอจนถึงเวลาที่เค้าให้โทรไม่ได้หรอกนะครับ" โจควอนครุ่นคิดถึงกฎข้อห้ามในวอร์ดและใช้มันเป็นไม้ตายสุดท้ายที่พอจะทำได้ตอนนี้
"พี่ก็อยู่นี่...ไม่เป็นไรหรอกมั้ง" แทคยอนออกความเห็น
"นี่เธอ..ปากแตกแน่ะ.." แทคยอนยกมือขึ้นแตะริมฝีปากชายเด็กหนุ่มร่างเล็กเบาๆ
"รอเดี๋ยวนะ.." คนตัวใหญ่ตรงหน้าโจควอนล้วงกระเป๋ากางเกงแสลคของตน เค้าหยิบตลับยาเล็กๆสีขาวขึ้นมาเปิดและแต้มเนื้อครีมสีขาวบางเบาขึ้นมาทาแผลให้โจควอน
"ขอบคุณฮะหมอ..หมอใจดีจังครับ" ควอนยิ้มแก้มปริ ดีใจจนเก็บอารมณ์ไม่อยู่เค้าเขย่งตัวขึ้น ใช้แขนพาดบ่าแทคยอน ควอนออกแรงรั้งต้นคอคนตรงหน้าให้โน้มแก้มลงมารับจูบของควอน และยังมีต่อด้วยการโอบกอดแทคยอนแบบเรียกได้ว่าเนื้อแนบเนื้อ
"!! ... " แทคยอนยืนตัวแข็งเป็นก้อนหิน เจย์เพื่อนของแทคยอนเองก็ตกใจไม่เเพ้กัน
" ขอบคุณครับหมอเดี๋ยวผมเอามาคืนนะคับ10 นาทีเท่านั้นรอตรงนี้นะฮะ " โจควอนดีใจจนออกนอกหน้าเค้าเผลอตัวกอดคนแปลกหน้าไปซะแล้วสิ
"ใจดีกับเค้าไปทั่ว..โดนเข้าใจผิดเลยเห็นไหม..รู้สึกเหมือนลืมอะไรไปไหม"เจย์ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ความจริงเค้าอยากจะขำให้ฟันล่วงมากกว่า
"น่ารักเหมือนแทเลย.."แทคยอนยิ้มเศร้าๆ
"อืม...มันแค่ความรู้สึกน่ะแทค.เก็บแค่เรื่องดีๆไว้ก็พอนะ..พี่ต้องไปเปลี่ยนเวรแล้ว อยู่ดูเด็กคนนั้นด้วยล่ะ" เจย์ตบบ่าแทคยอนเบาๆเป็นการให้กำลังใจ ก่อนจะปลีกตัวกลับไปทำงาน
"ขอบคุณครับพี่..ผมจะจำไว้.." แทคยอนฉีกยิ้มบางๆ โบกมือลาเพื่อนของตน
คนผิวขาวผละออกมาจากลีจุนโฮ เค้าเดินเรี่ยดทางเดินออกมาจนถึงสนามหญ้าและพึ่งสังเกตุ มีชายอีกคนเดินตามหลังเค้ามาก่อนจะค่อยๆเดินนำเค้าไป
หัตถเทวะจอมป่วนคนนั้น คนที่ทำท่างน่ารักไม่แคร์สื่อ พอเห็นใกล้ๆถึงรู้ว่าผู้ชายคนนี้เรียกได้ว่าหล่อเข้มแบบมีสเน่ห์ สัดส่วนความสูงดูเหมือนไม่ได้สูงไปกว่าเค้าเท่าไหร่ แต่หมอนี่ตัวใหญ่กว่าเค้าเยอะทีเดียว ท่าทางการเดินทำให้คิดได้ว่า คนๆนี้เป็นคนที่เชื่อมั่นในตัวเองมาก ท่าทางตอนนี้ก็ดูสุขมต่างกับภาพที่เค้าเห็นเมื่อช่วงเช้าลิบลับ นี่สินะที่โฮบอกว่า หมอนี่เหมือนพวก2บุคลิก
'หัตเทวะงั้นเหรอ..พกความมั่นใจมาเต็มร้อยสินะ เดินยังกะเดินบนแคทวอกท์..ชิ!!' นิชคุณรอบคิดอย่างหมันใส้ในใจ
อยู่ๆชายตรงหน้าเค้าก็ติดตีนแมววิ่งห่างเค้าออกไป ชายเสื้อกาวน์สีขาวสะบัดตามแรงลม ทำให้เห็นว่าเรือนร่างของผู้ชายคนนี้เข้ากับชุดฟอรม์ของหมอเหลือเกิน เมื่อมองตามไปเค้าก็พบโจควอนน้องชายของเค้าอยู่อีกฝากของสนามพอดี
" คุณ!! " ลีจุนโฮเข้ามาทักเพื่อนซี้จากด้านหลัง
"ได้คุยกับควอนรึยัง" จุนโฮถามนิชคุณ เค้าถือแฟ้มOPDมาปึกใหญ่
"ยัง..ไม่มีมือถือลำบากจัง.." คนผิวขาวหันมาคุยกับเพื่อน
“ให้ประกาศไหม..หรือจะรอ..เดี๋ยวก็ใกล้ถึงเวลาบำบัดกับโฮแล้วเดี๋ยวคงมาแหละ..เสียดายคุณซีแต่งงาน..อยากให้ทำบำบัดต่อเนื่องกับหมอคนเดียวกันมากกว่า” จุนโฮเบ้ปาก
“ไม่ต้องประกาศหรอก..เจอตัวแล้ว” นิชคุณปรายตาดูน้องชายจากอีกฝากของสนามหญ้า
"งั้นคุยกันไปก่อนนะ..เดี๋ยวเที่ยงเราค่อยคุยกัน..โฮติดประชุมน่ะ" จุนโฮแยกตัวไปทันทีเรื่องขั้นตอนการรักษาควอน จุนโฮอธิบายกับนิชคุณไปแล้ว ขาดแต่เรื่องการรายงานความคืบหน้าของการบำบัด
เมื่อคนร่างขาวหันกลับไปที่สนามอีกครั้ง นิชคุณเห็นหมอผู้ชายคนนั้นจับต้องใบหน้าน้องเค้าและโจควอนก็จูบและกอดผู้ชายคนนั้นกลางสนามหญ้า ถึงแม้ว่าหมอนั่นจะไม่ได้กอดตอบ แต่ไอ้เวรนั่นก็แตะต้องตัวน้องชายเค้าก่อน นิชคุณกำมือแน่น ไม่ว่าหมอนี่จะใหญ่มาจากไหน เก่งแค่ไหน หรือเป็นรุ่นพี่ใคร ฉันไม่สนทั้งนั้นแหละ
" แกกล้าเกินไปแล้วที่มากระตุกหนวดเสือ." คนผิวขาวยิ้มเหี้ยมเกรียม
" เยี่ยมมากเลยนะควอน..กล้าเปิดตัวคนรักซึ่งๆหน้าพี่เนี่ย..นายท้าพี่เหรอ!! "
คนผิวขาวคว้าโทรศัพท์โทรหาเลขาคนสนิท " ซึงไปหาประวัติ อ๊ค แทคยอนมา หมอนี่เป็นหมอในโรงพยาบาลฉัน ขุดมาให้หมด ฉันต้องการข้อมูลมันบนโต๊ะทำงานพรุ่งนี้!!" เลือดในกายนิชคุณเดือดผล่าน
'นายกล้ามาก..แล้วเราจะได้เห็นดีกัน'
นิชคุณกลับมาที่โรงพยาบาลช่วงเย็น เพราะเค้าอยากคุยเรื่องอ๊คแทคยอนกับเพื่อนสนิทที่ดูเหมือนจะรู้จักหมอคนนี้ดี
“ร้องเพลงเนี่ยนะ”นิชคุณแฮวเมื่อเห็นชายหนุ่มในชุดกาว์นสีขาวนั่งอยู่กลางห้องนันทนาการของวอร์ดจิตเวชเด็ก
ในมือชายหนุ่มมีกระดาษสีขาว2-3แผ่น
ข้างกายหมอศัลยมีพยาบาลสาวนั่งดีดกีตาร์อยู่เคียงข้าง
เสียงทุ้มแหบที่เค้าเคยได้ยินตอนนี้มันไม่ได้เซ็กซี่แล้ว
นิชคุณจ้องมองชายในห้องนันทนาการอย่างสงสารเด็กๆ
“พระเจ้า!!...หมอนี่เสียงแย่ชะมัดเลย” นิชคุณยกมือขึ้นอุดหูตัวเอง
“เอาน่ะ...อย่างน้อยเค้าก็ทำเพราะอยากสร้างความสุขให้เด็กๆแหละน่า”
จุนโฮยิ้มแห้งๆ เค้าแอบเข้าข้างนิชคุณอยู่เหมือนกัน
ผู้ชายคนนี้ไม่เหมาะจะร้องเพลงเลย
“ฉันไม่ได้มานี่เพราะอยากรู้ว่าหมอเค้ามาทำอะไรที่นี่หรอกนะ...ฉันมาเพราะว่าฉันเห็นหัตถุเทวะของนายกอดน้องชายฉันตะหาก”นิชคุณแยกเขี้ยวเมื่อเค้าพูดจบประโยค
“นายว่าใครกอดใครนะ!!” จุนโฮตะลึงพึงเพิดกับข่าวที่ออกมาจากปากเพื่อนสนิท
“5555นายไปเอาข่าวนี้มาจากไหนเนี่ย” ลีจุนโฮกลั้นหัวเราะไว้แทบไม่ไหว
“ไม่ได้ได้ยินจากปากใครหรอกนะ...ฉันเห็นกับตาตัวเองเลย”
นิชคุณจ้องหน้าลีจุนโฮตาเป็นมัน
“หมออ๊คเค้าเป็นผู้ชายปกตินะคุณ...เค้าจะกอดโจควอนทำไม...”
จุนโฮตอบกลับทันที
“นั่นสิ...เค้ากอดควอนทำไมกันนะถ้าเค้าปกติน่ะ”นิชคุณตาวาวเมื่อนึกถึงภาพแทคยอนโอบกอดน้องชายคนสำคัญของเค้าแนบแน่น
“นายคงไม่ได้คิดว่า...หมอเค้าเป็นแฟนควอนใช่ไหม...ฉันกล้าพูดเลยนะว่าเป็นไปไม่ได้”
จุนโฮยืนยันเสียงแข็ง ใบหน้าหมอตาตี่เครียดขึ้นมา
“นายรู้นิสัยฉันโฮ....นายจะเอาประวัติเค้าให้ฉันดีๆหรือนายจะให้ฉันจัดการเรื่องนี้เอง”
นิชคุณแยกเขี้ยวใส่เพื่อน
แต่ลีจุนโฮรู้ว่านี่เป็นฟางเส้นสุดท้ายที่นิชคุณหยิบยื่นให้เค้า
“คุณ...ฉันเชื่อใจชาน...ชานเชื่อใจหมออ๊ค...และฉันอยากให้นายเชื่อใจฉัน...ฉันว่านายเข้าใจผิดไปเองนะ”
ลีจุนโฮให้คำตอบหนักแน่น
ทำไม2คนนี้ถึงได้หนีกันไม่พ้นนะ จุนโฮได้แต่คิดในใจ
เค้าเคยแย้งเรื่องแทคยอนกับควานชานชองมาแล้ว เค้าไม่อยากให้นิชคุณและแทคยอนกลับมาเจอกันอีก
ไม่ว่าทั้งสองคนจะจำกันได้รึไม่ มันก็ดีกว่าถ้าจะไม่กลับมาเจอกัน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น