ไฟรักปมแค้น12

ข้อสังเกตุ



             คิมมินจุนหนีบเพื่อนสนิทอย่างควานชานชองมาบ้านด้วยเมื่อเค้ารู้ว่านิชคุณต้องการจะคุยกันแบบพร้อมหน้าทั้งครอบครัว ดังนั้นชานชองมีประโยชน์ต่อเค้ามาก เพราะคิมเทฮีจะวางตัวดีไม่แสดงท่าทีไม่สุภาพหรือสติแตกใส่เค้าและนิชคุณ ในขณะที่มินจีเองก็จะวางตัวสมเป็นกุลสตรีเช่นเดียวกัน เค้าไม่แคร์ว่าคนในบ้านจะพูดอย่างไรกับการที่เค้าพาคนนอกมาร่วมวงสนทนาด้วย

            คิมมิจจุนบังคับให้ชานชองมานอนบ้านเค้าจนกว่าอาสาวและญาติผู้น้องจะกลับไปบ้านของตัวเอง เรื่องนี้สร้างความไม่พอใจให้อูยองมาก แต่มินจุนก็มีเหตุผลพอที่จะลบล้างความผิดของตัวเองได้ เค้าไม่อยากให้คิมเทฮีและมินจีเฉือดอูยองต่อหน้าพ่อของเค้าและต่อหน้าตัวเค้าเอง

            นิชคุณโทรตามพี่ชายคนแรก จากนั้นก็ให้พี่ชายโทรหาพ่อ ในขณะที่อาสาวและญาติผู้น้องนั่งรออยู่ที่บ้านเค้าแล้ว เมื่อมินจุนกลับมาถึงบ้าน เค้าก็โทรบอกนิชคุณ

            “พี่ผมกลับมาแล้วครับ..ตกลงคุณจะไปด้วยจริงๆเหรอ” เด็กหนุ่มผิวขาวถามแฟนหนุ่มอายุมากกว่า

            “สักวันก็ต้องคุยกันอยู่แล้ว...” แทคยอนพูดพลางลุกขึ้นยืน ชายหนุ่มใหญ่ส่งมือให้เด็กผิวขาวจับ

            “ฉันจะไปด้วย...นายไปคนเดียวไม่ปลอดภัย” ชางมินรีบเสนอตัว

            “ตามใจ” แทคยอนตอบ


            ชางมิน แทคยอน นิชคุณเตรียมตัวออกจากบ้าน เด็กน้อยผิวขาวเดินออกจากบ้านมาก่อน ตามด้วยชางมิน

            “เฮ้ย!!...” คิมมินจุนที่ยืนรอน้องชายอยู่หน้าบ้านตัวเองปรายตาไปเจอร่างน้องชายของเค้าเดินออกมาจากบ้านเพื่อนบ้านที่รั้วติดกัน

            “ไหนนายบอกว่า..น้องนายหนีออกจากบ้านไง...แหมะหนีไปไกลนะ...” ชานชองหันตามเสียงของเพื่อนซี้หน้ายาว
           
            ปัง!!

             เสียงปืนดังสนั่นก้องไปทั่ว คิมมินจุนและชานชองสะดุ้งโหยงหันมองที่ไปรอบๆตัว เค้าพบชายชุดดำซ้อนท้ายมอเตอร์ไซร์ขับรถออกไป

            “ไม่!!!ไม่..” เสียงหวีดร้องของเด็กหนุ่มผิวขาวดังฉีกอากาศรอบด้าน

            คิมมินจุนและชานชองรีบวิ่งไปที่ประตูบ้านของเพื่อนบ้านเค้าพบน้องชายตัวเองนอนกองอยู่กับพื้นเคียงข้างกับผู้ชายอีกคน และมีผู้ชายอีกคนกำลังทำอะไรอยู่สักอย่าง

            “เรื่องบ้าอะไรวะ!!” มินจุนเครีบกระโดดเกาะรั้วบ้าน เค้าพยายามปีนข้ามประตูเหล็กดัดสีขาวเข้าไปด้านใน ควานชานชองโทรเรียกรถพยาบาลและโทรแจ้งตำรวจ

            เสียงไซเรนดังสนั่นไปทั่วบริเวณ มินจีและเทฮีตกใจเมื่อเธอได้ยินเสียงปืน หญิงสาว2คนวิ่งออกมานอกบ้าน

            มีชาย2คนถูกหามขึ้นรถ คนนึงเป็นเพื่อนบ้าน และอีกคนเป็นหลานชายของเธอ เทฮียืนหน้าซีดเผือด ชางมินวิ่งตามออกมานอกบ้านหลังจากที่แทคยอนถูกหามขึ้นรถพยาบาล ชางเหลือบเห็นคิมเทฮียืนตัวสั่นอยู่หน้าบ้าน แต่เวลาเร่งด่วนแบบนี้มันไม่ใช่เวลาที่เค้าจะไปสนใจว่าเป็นคนจ้างวานฆ่า เค้าเป็นหมอไม่ใช่ตำรวจ ชางมินเช็ดเลือดที่เปื้อนมือตัวเองกับขากางเกง เค้ากระโดดขึ้นไปนั่งบนรถข้างเตียงแทคยอนและไปโรงพยาบาลพร้อมกัน

            คิมมินจุน ชางชอง เทฮี มินจีรีบตรงดิ่งไปโรงพยาบาลทันทีเพราะนิชคุณสลบถูกพาไปโรงพยาบาลพร้อมกับเพื่อนบ้าน

            “นายนี่มัน..ทำไมชีวิตถึงถูกลิขิตให้ตกอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้อยู่เรื่อยเลยนะ” มินจุนเปรยคนเดียว ชานชองหันมองเพื่อนสนิทอย่างสงสัย

            มินจุนนั่งทิ้งตัวพิงกำแพงโรงพยาบาล เค้าเหลือบตามองเพื่อนที่ทำสีหน้าอยากรู้อยากเห็น
มินจุนยกมือขยี้หัวตาตัวเองพร้อมถอนหายใจยาว

            “สงสัยเหรอ...สงสัยก็ถามสิ..ฉันก็อยากเล่านะ” มินจุนพูดกับชานชอง คิมเทฮีสะดุ้งหันมองหลานชายของตน

            “คุณน่ะ..เป็นลูกชายของน้องชายพ่อฉัน..ตอนที่ฉันเพิ่งจบ คุณก็ย้ายไปต่อคอร์เนลมหาลัยเดียวกันกับฉันน่ะแหละ ฉันไม่รู้หรอกทำไมหมอนั่นถึงอยากไปเรียนที่นู่น วันจบพวกเราก็ไปแสดงความยินดี แล้วก็หวังว่าจะกลับบ้านพร้อมกัน  แต่คุณน่ะดื้อ  หมอนั่นบอกว่าจะอยู่ต่ออีกหน่อย จะทำธุระอะไรไม่รู้ หลังจากนั้น1อาทิตย์เราก็ได้รับข่าวว่าคุณประสบอุบัติเหตุ หมอนั่นไปแลกเงินในธนาคารแล้วบังเอิญเกิดเหตุโจรปล้นธนาคารมีคนโดนยิงตายด้วย...เราโกลาหลกันใหญ่ แต่โชคดีที่หมอนั่นแค่เจ็บนิดหน่อย มันคล้ายกับเหตุการณ์นี้ตรงที่ว่า ผู้ชายที่โดนยิงนอนอยู่ข้างน้องชายฉัน..ฉันกำลังสงสัยว่า...จริงๆแล้วพวกนั้นยิงพลาดรึเปล่า...มีใครตั้งใจฆ่าคุณรึเปล่า” มินจุนพูดพลางขยี้หัวตัวเอง

            “ถ้าเป็นอย่างที่นายสงสัย...นายคิดว่าทำไมถึงมีคนคิดปองร้ายน้องชายนายล่ะ..ชานกลับสงสัยว่า..ถ้าพวกนั้นคิดฆ่าน้องนายทำไมปล่อยเรื่องนี้มาตั้งหลายปีแล้วค่อยทำอีกที ถ้าน้องนายไม่ตายครั้งนั้น และพวกนั้นไม่คิดรามือ ฉันว่าน้องนายคงไม่ได้มีชีวิตมาถึงวันนี้หรอกมั้ง” ชานชองให้เหตุผลบ้าง

            “มันก็จริงของนายนะ...” มินจุนพยักหน้าพลางคิดตาม

            “แล้วคนที่โดนยิงล่ะ...เพื่อนบ้านนาย” ชานชองถามอย่างเป็นห่วง

            “คงต้องให้พระเจ้าช่วยอย่างเดียวแล้วล่ะ” มินจุนตอบเสียงเศร้า

            “จุน...ตอนนั้นนายบอกว่า..พ่อนายไม่อยากให้นายกับน้องนายไปยุ่งกับเพื่อนบ้านที่ชื่อและหน้าเหมือนเพื่อนนายที่หายไปใช่ไหม...แล้วนายก็พูดทำนองว่าน้องชายนายโกรธเรื่องพ่อนายไปยุ่งกับการลบตัวตนผู้ชายคนนั้น...นายคิดว่ามันจะเกี่ยวกับเรื่องนี้ไหม” ชานชองถามขึ้นอย่างฉงลใจ

            “นายสงสัยพ่อฉันเหรอ” มินจุนขมวดคิ้วทันที

            “เปล่า...ฉันแค่สงสัยว่าทำไมพ่อนายต้องต่อต้านเพื่อนบ้านนาย...ผู้ชายคนนั้นจริงๆแล้วเป็นใครน่ะ” ชานชองถามซ้ำฃ

            “ฉันไม่รู้หรอกว่าจริงๆหมอนั่นแต่ก่อนเป็นใคร...แต่รู้ว่าตอนนี้เป็นประธานบริษัอสังหาริมทรัพย์ รวยบัดซบเลยล่ะ ฉันว่าข่าวใหญ่แน่ถ้าข่าวรั่วนะ...ฉันเคยชกหน้าหมอนั่นด้วยดีนะไม่โดนฟ้องหมดตัว” มินจุนเคพูดเสียงเนิบนาบ

            “ถ้าพ่อนายไปลบตัวตนของคนที่มีอิทธิพลขนาดนั้นได้...ฉันว่าเรื่องนี้ไม่ธรรมดาแล้วล่ะ”ชานชองตั้งข้อสงสัย

            “มันก็จริงอย่างที่นายว่านะ” มินจุนคิดตาม

            “แล้วพ่อนายไปไหน...หรือไปรอที่บ้านนาย” ชานชองถามพลางหันซ้ายแลขวา

            “พ่อเหรอ..เค้าบอกกำลังมาน่ะ...เห็นว่าติดธุระ” มินจุนตอบ ชายหน้ายาวทิ้งหัวบนไหล่เพื่อนตัวใหญ่ หมีชานหันมองและยิ้มปลอบใจเพื่อน

            คิมเทฮีนั่งนิ่งไม่ขยับไปไหน หญิงสาวกดเบอร์โทรหาพี่ชายตัวเอง และคิมจินยองไม่ยอมรับโทรศัพท์ ส่วนมินจีบอกว่าจะไปซื้อของกินให้นิชคุณแต่ก็หายตัวไปนาน2นาน

            “แม่..แม่ไปรอพี่แทคก่อนนะครับ..เดี๋ยวผมตามไป” จุนโฮจับมือเบจจีเบาๆที่สนามบิน จุนโฮไปส่งเเม่ของเค้าขึ้นเครื่องไปหาพี่ชายที่เกาหลี ส่วนตัวเค้าเองมีเป้าหมายอื่นที่ต้องไปทำ

ความคิดเห็น